Thursday, July 4, 2013

พระ อาจารย์ ทหาร ตำรวจ



ตั้งใจจะเขียนมานานแล้ว เกี่ยวกับ พระ อาจารย์ (ไม่นับครูนะ) ทหาร ตำรวจ ซึ่งเมื่อก่อนอาชีพเหล่านี้ ดูจะเป็นอาชีพที่เสียสละ น่าเคารพ น่านับถือ แต่ปัจจุบันก็อย่างที่เห็น ความน่าเชื่อถือลดน้อยลงทุกที แทบจะไม่มีความศักดิ์สิทธิ์ เหมือนอาชีพธรรมดา ๆ อาจจะดูแย่กว่านิด ๆ เสียด้วยซ้ำ เพราะมีข่าวเสื่อมเสียไม่เว้นแต่ละวัน

คุณพระคุณเจ้า เมื่อก่อนคนนับถือ เพราะบ้านเราเมืองพุทธ มีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ยึดเหนี่ยวจิตใจ น่าเลื่อมใส่ แต่ปัจจุบัน อย่างที่รู้ ๆ บางวัดก็รวยจากความงมงายของคน อย่าว่าแต่วัดป่า วัดเขาเลย แม้แต่ในกรุงก็จัดอีเว้นท์กันทุก  ๆ สามเดือนหกเดือน ชาวบ้านสรรเสริญกันเพียบ ได้เงินกันไป แบ่งให้กระทรวง กรม หรือ สำนัก ศาสนาหน่อย เรื่องก็เงียบ ส่วนพระรายบุคคล ถ้าไม่ร่ำรวยผิดปกติ ก็มั่วสีกา ตุ๋ยเด็ก เณรตุ๊ด เยอะแยะ ส่วนพระปลอมก็เดินกันเต็มอย่างกับแต่งครอสเพลย์ บางรายก็ไม่แน่ใจว่ามาบิณฑบาต หรือขอส่วนบุญ ยืนรอหน้าบ้าน ไล่ก็ไม่ไป ทำให้พระน่านับถือน้อยลง ๆ ทุกวัน



ส่วนอาจารย์ ไม่รวมครูนะ ที่ไม่รวมครู เพราะครู น่ะ ไม่จบดอกเตอร์ อีโก้ไม่สูง น่าเคารพนับถือ อยากไปหาบ่อย ๆ มากกว่าอาจารย์ ที่แกร่งกร้าว อีโก้สูง บอกไม่ได้ ไม่รับฟัง ลูกศิษย์ลูกหาเยอะ เป็นพรรคพวก คอยอวย  ทำให้ยิ่งมีความมั่นใจสูงเข้าไปใหญ่ ยิ่งเป็นอาจารย์ เกี่ยวกับการเมืองนี่ยิ่งพูดด้วยไม่ได้เลย ไม่รับฟังคนที่เค้าเห็นต่างใด ๆ ทั้งสิ้น เห็นต่างบางทีไล่ออกนอกสถาบัน นอกประเทศกันเลยทีเดียว ไม่ขอเอ่ยชื่อ หาตามโซเชียลได้เยอะแยะ



ที่หนักข้อที่สุดคือ ทหาร ตำรวจ อย่างที่รู้ ๆ ตำรวจมีกฏหมาย ทหารมีอำนาจ อยู่ในมือ ทำอะไรก็ไม่ผิด จะให้ใครผิดก็ได้ ใหญ่คับเมือง ถ้ามีแบ็คอัพดี ๆ หน่อย ก็สบาย ตำรวจจะหากินง่ายกว่าทหาร แต่ไม่ค่อยทำมาหากินนะ เพราะส่วนใหญ่ก็ไถจากประชาชน ไปแจ้งความก็ต้องให้รางวัลนำจับ ตำรวจจราจรก็ยัดข้อหา เพื่อรีดไถ ไม่ต่างกับโจรเท่าไหร่ ส่วนทหารไม่ค่อยมีข่าวมากนัก ส่วนใหญ่จะอยู่เงียบ ๆ แต่ถ้ามีปัญหากับใคร ก็จะไม่ค่อยมีใครกล้ายุ่ง ทหารเมากร่างก็เยอะ ตอนนี้ข่าวก็เงียบไป

สรุปอาชีพเหล่านี้ สมัยก่อนเคยมีเกียรติ น่าเคารพ น่านับหน้าถือตา แต่ปัจจุบัน ข่าวเสื่อมเสียมันเยอะ เดี๋ยวจะหาว่าเหมารวม พระ อาจารย์ ทหาร ตำรวจ ดี ๆ ก็มี แต่ผมว่าเป็นส่วนน้อยในปัจจุบันนะ ผมเขียนสิ่งนี้ขึ้นมาก็ไม่ได้หวังว่ามันดีขึ้นหรอก ผมทำใจรับได้ แค่บันทึกไว้ว่าสมัยนึงมันเป็นแบบนี้ แล้วจะรอดูตอนผมอายุ 60 ว่ามันจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น หรือแย่ลง ก็เท่านั้น

ขอบคุณที่อ่านจนจบ

Saturday, April 27, 2013

10 สิ่งที่อยากทำ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้






เนื่องจากอายุอานามก็ย่างเข้า 30 ต้น ๆ แล้ว (โคตรแก่) มีหลาย ๆ สิ่งที่เรียกได้ว่าทำผิดพลาด หรือ อยากทำให้เร็วกว่าปัจจุบันนี้ เยอะแยะมากมาย เลยลองมานั่งคิดว่า ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ มีสิ่งใดที่อยากทำ หรือ อยากกลับไปแก้ไข สัก 10 ข้อ เพื่อเป็นประสบการณ์ให้คนที่อายุยังน้อย ให้มีสิทธิแก้ไขได้บ้าง

  1. ทำประกันให้พ่อแม่ - เมื่อ 10 ปีที่แล้วไม่เคยรู้สึกเลยว่า พ่อ แม่ แก่ลง ไม่เห็นท่านเข้าโรงพยาบาล เนื่องด้วยเงื่อนไขประกันถ้าจะทำต่อเนื่อง ส่วนใหญ่ พ่อ แม่ ต้องอายุไม่เกิน 55 ปี ซึ่งเท่ากับ เืกือบ ๆ 10 ปี ที่แล้ว มาทำให้ท่านตอนนี้ก็ไม่ทันเสียแล้ว
  2. ดูแลตัวเองให้ดี - ตอนนี้รู้สึกว่าตัวเองแก่ พลกำลังเริ่มถดถอย อาจจะเป็นผลพวงจากการใช้ร่างกายที่ย่ำแย่ตั้งแต่ยังเด็ก นี่ขนาดไม่ได้กินเหล้า สูบบุหรี่นะ
  3. ไม่เลือกเรียนภาคคอม -  เนื่องจากงานที่ทำอยู่มันตัน ๆ จริง ๆ ถ้าย้อนกลับไปได้อีกหน่อย จะเลือกเรียนหมอ เงินดี ที่สำคัญช่วยรักษาทางบ้านได้ด้วย
  4. ลดของฟุ่มเฟือยลงบ้าง - บางอย่างซื้อมาก็ไม่ได้ใช้ แต่ด้วยความอยากก็ซื้อมันเข้าไป ทุกคนคงเป็น
  5. ลงทุน - เมื่อก่อนไม่เคยคิดเลยเรื่องนี้ เนื่องจากอยู่กับพ่อแม่ มีบ้านอยู่ฟรี ๆ ตอนนี้แก่แล้ว มีครอบครัวแล้ว น่าจะลงทุนไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ เช่น ซื้อบ้าน ซื้อคอนโด ซื้อที่ดิน
  6. ทำธุรกิจส่วนตัว - ทำอะไรเล่น ๆ ที่อยากทำ เป็นรายได้เสริม ตอนอายุยังน้อย ล้มแล้วลุกใหม่ได้ เผื่อเป็นงานหลักในปัจจุบัน
  7. ลดหย่อนภาษี - ปกติตอนทำงานใหม่ ๆ ไม่เคยสนใจ พวกซื้อ LTF RMF แต่ตอนนี้เริ่มคิดว่าภาษีที่เราเสียไปนี่มันไม่คุ้มเอาเสียเลย เริ่มซื้อ LTF ปีแรก ช้าไปไหม
  8. เปลื่ยนงานบ่อย - ข้อนี้อาจจะแปลกไปสักหน่อย ไม่ใช่ที่ทำอยู่ปัจจุบันไม่ดี แต่มันเป็นความท้าทาย + กับเงินเดือนเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดอีกด้วย ตอนยังหนุ่มยังไม่มีครอบครัว มีพลังและมีไฟ น่าจะทำอะไรได้มาก ตอนนี้คงไม่เปลี่ยนแล้วล่ะ หมดไฟ ฮ่าๆ
  9.  ค้นหาตัวเอง - ปัจจุบันเพิ่งเริ่มค้นหาตัวเองว่าอยากจะทำอะไร แล้วมึนงงมาก เหมือนเจอแต่ทางที่เป็นไปไม่ได้ เพราะด้วยที่ไม่ตัวคนเดียวเหมือนเก่า ต้องคิดถึงครอบครัว อนาคต จึงทำให้หาทางไปได้ยากมาก ๆ
  10. สร้างครอบครัว - ข้อสุดท้ายที่ คือ เจอภรรยาผมให้เร็วขึ้นนั่นเอง อยากสร้างครอบครัวเร็วขึ้น สองคน ช่วยกันคิดช่วยกันทำได้เร็วกว่า มีความมั่นคงกว่า มีลูกได้เร็วขึ้น ถ้ามีครอบครัวอะไรหลาย ๆ อย่างในข้อข้างบนคงทำ และคิดได้เร็วขึ้นแน่นอน
เรามาย้อนเวลากลับไปด้วยกันนะ <3

 สรุป

สิ่งต่าง ๆ ที่เขียนข้างบน เป็นแค่สิ่งที่ผ่านมาแล้วผมรู้สึกว่าอยากเริ่มทำตั้งแต่ัยังวัยรุ่น อย่างน้อยก็จบใหม่ เริ่มทำงานใหม่ ๆ  อาจจะทำไม่ได้ทุกข้อ แต่นึกย้อนไปแล้วก็รู้สึกว่าน่าจะทำมาตั้งนานแล้ว เอาไว้เป็นอุทาหรณ์ ให้น้อง ๆ ที่จบใหม่ ๆ ทราบว่าเราควรจะเริ่มทำอะไร ยังไง จะได้ไม่ลำบากตอนแก่นะครับ

ขอบคุณที่อ่านจนจบ

Tuesday, February 19, 2013

กับดักมนุษย์เงินเดือน

เมื่อเกือบสิบปีที่แล้ว ตอนผมจบใหม่ ๆ ทำงานใหม่ ๆ อยู่บ้านกับพ่อแม่ เงินเดือนน้อย จำได้ว่าจบใหม่ก็ประมาณ 15,000 บาทเท่านั้น ให้ที่บ้าน 5000 ผ่อนมอเตอร์ไซค์ 5000 กู้ที่บ้าน เหลือใช้ประมาณ 3500 เพราะโดนหักภาษีกับประกันสังคม ซึ่งจะเลือกเก็บต่อเดือนประมาณ 2000 บาท


เวลาผ่านไป 3 ปี ผมมีเงินเก็บ 200,000 กว่าบาท ซึ่งจริง ๆ ควรจะมีเงินเก็บมากกว่านี้ แต่นำไปซื้อของเล่นเยอะแยะ เช่น Notebook, กล้อง, DVD, เครื่องเล่นเกมส์ ฯลฯ ก็เงินมันหามาได้ง่าย ๆ นี่น่า
 


จุดเปลี่ยนของผมคือ ผมได้นำเงินจำนวนนี้ไปดาวน์รถ เนื่องจากผมขับมอเตอร์ไซค์ล้ม หัวกระแทกพื้น รอดมาได้ กลัวไม่ได้ใช้เงิน ซึ่งก็เป็นความคิดที่ถูกครึ่ง ผิดครึ่ง

หลังจากซื้อรถ สิ่งที่ผิดคือ ผมแทบไม่มีเงินเก็บ ทั้ง ๆ ที่เป็นคนประหยัดอยู่แล้ว ค่าผ่อนรถ, ประกันต่อปี, ค่าน้ำมัน ต่าง ๆ แต่สิ่งที่คิดว่าถูกคือ มันก็สะดวก ปลอดภัย เมื่อก่อนรถไม่ค่อยติด อยู่บ้านกับพ่อแม่ เลยทำให้ผ่านมาได้


อีกสามปีต่อมา ผมมีแฟนซึ่งปัจจุบันคือภรรยาของผมนั่นเอง วางแผนครอบครัว ผมเริ่มใช้เงินอย่างมีสติ ซื้อบ้านหลังเล็ก ๆ เก่า ๆ มือสอง  ซึ่งภรรยาผมในตอนนั้นก็น่ารักมาก คิดว่าบ้านหลังแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว ได้เงินเดือนมากกว่าตอนจบใหม่ ๆ สักสองเท่าได้ แต่ก็ยังไม่พอ เดือนชนเดือน แทบไม่ได้ซื้อของเล่นอะไรอีกเลย ดังนั้น เราสองคนจึงเร่งผ่อนบ้านให้หมด ภายในสองปี แล้วก็ทำสำเร็จ
 


ทุกอย่างก็วนเวียนอยู่กับหนี้ รอเงินเดือน มาใช้หนี้เหลือไว้ใช้ไม่กี่บาท บางเดือนลืมประหยัด ก็ไม่มีเงินเก็บ iPhone iPad ออกใหม่ ก็ผ่อน 0 % ไป คิดว่าไม่กี่ % ของเงินเดือน ทุกอย่างคิดว่าเงินมันเข้ามาทุกเดือน โดนกับดักเหล่านี้หลอกเป็นประจำ คิดว่าเดือนหน้าค่อยเริ่มเก็บ เดือนหน้า เดือนหน้า... สุดท้ายก็ไม่ได้เก็บ

อีกหน่อย ผมต้องมีลูก ยังไม่ทราบว่าจะเลี้ยงอย่างไร ต้องพึ่งเงินเดือน เงินของคนอื่นไปอีกเมื่อไหร่ เมื่อไหร่ถึงจะเป็นอิสระจากกับดักของมนุษย์เงินเดือนนี้

นี่คือประสบการณ์ชีวิตของผม จากคนที่อาจจะสบาย หรือ ลำบากกว่าคนอื่น แต่ผมกำลังติดกับดัก กับดักที่ผมพยายามจะหลุดออกไปให้ได้ แล้วคุณละกำลังติดกับดักมนุษย์เงินเดือน แบบผมอยู่หรือเปล่า

ขอบคุณที่อ่านจนจบครับ